วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ข่าวด้านไอที ข่าวที่ 1

คลอดแล้ว! ชิปที่รองรับมาตรฐานในการรับ และส่งสัญญาณ Wi-Fi แห่งอนาคต 802.11ax ที่เร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 4 เท่า!!

ก่อนที่เราจะไปดูความสามารถของชิปทั้ง 2 ตัวจาก Qualcomm ที่รองรับมาตรฐานเครือข่ายไร้สายแห่งอนาคตตัวล่าสุดอย่าง 802.11ax เรามาทำความรู้จักเจ้าตัวเลข 802.11 กันก่อนดีกว่า เอาง่ายๆ มันก็ก็คือตัวเลขมาตรฐานการทำงานของระบบเครือข่ายไร้สาย (ที่เรียกติดปากกันว่า Wi-Fi นั่นแหละ) แล้วสำหรับตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ตามหลังเจ้าเลขดังกล่าวนี้ มันคือสิ่งที่แสดงถึงชนิดของเทคโนโลยีไร้สายนั้น โดยมาตรฐานดังกล่าวนั้นมีมาตั้งแต่ปี 1999 ในชื่อ 802.11b ตามมาด้วย 802.11a แล้วก็ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ จนเกิด 802.11g, 802.11n และ 802.11 ac ที่เป็นมาตรฐานล่าสุด

แล้ว 802.11ax คืออะไร
มันก็คือมาตรฐานใหม่ของระบบเครือข่ายไร้สาย ที่นอกจากจะถูกพัฒนาให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้นกว่าเดิม (802.11ac) ถึง 4 เท่าตามทฤษฎีแล้ว มันยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในการจัดการสัญญาณให้ดีขึ้นอีกด้วย แถมมันรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ที่ใช้มาตรฐานเก่าๆ พร้อมช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการสัญญาณในอุปกรณ์เก่าๆ ได้อีกด้วยนะ ซึ่งชิปทั้งสองตัวอย่างชิป IPQ8074 ที่ใช้ส่งสัญญาณ Wi-Fi ในแอคเซสพอยต์ หรือเราเตอร์  และชิป QCA6290 ที่ใช้รับสัญญาณ Wi-Fi ในอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเครื่องคอมพิวเตอร์, แล็ปท็อป หรือ สมาร์ทโฟน ฯลฯ ก็สามารถรองรับเจ้า มาตรฐาน 802.11ax นี้
IPQ8074 คือชิปที่มีขนาดการผลิต 14 นาโนเมตร ขับเคลื่อนด้วย CPU A53 quad-core สถาปัตยกรรม 64 บิต ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในงานหลายรูปแบบทั้ง เกตเวย์ และเราเตอร์ มาพร้อมฟีเจอร์ Self-Organizing Network (SON) ที่จะช่วยจัดการความหนาแน่นของสัญญาณ และเทคโนโลยี MU-MIMO (Multi User - MIMO) ที่จะช่วยให้อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการกระจายสัญญาณ Wi-Fi สามารถส่งข้อมูลหลายๆ ชุด ไปให้ผู้ใช้หลายคนได้พร้อมๆ กัน เป็นผลให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วสุดถึง 4.8 Gbps 
QCA6290 คือชิปที่อยู่ในอุปกรณ์รับสัญญาณ ที่จะมีฟีเจอร์ Dual Band Simultaneous (DBS) ในการควบรวมคลื่นสัญญาณทั้งแบบความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงสุดถึง 1.8 GBps แถมยังมีความสามารถลดการใช้พลังงานลงจากเดิมถึง 2 ใน 3 อีกด้วย
จากการคาดการณ์ตามคำบอกเล่าของ Qualcomm ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นเจ้าชิปทั้ง 2 ตัว ในอุปกรณ์ไอทีในช่วงปลายปีนี้ก็เป็นได้ครับ 

อ้างอิง : http://news.thaiware.com/9629.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น